นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยแผนครึ่งปีหลังว่า ช่วงเดือน พ.ย.นี้ ธนาคารจะเปิดบริการปล่อยกู้ให้ลูกค้ารายย่อยผ่านระบบออนไลน์ หรือดิจิทัลเลนดิ้งได้ 100% โดยจะเน้นการปล่อยกู้ให้กลุ่มอาชีพอิสระ เช่น พ่อค้าแม่ค้าตลาดสด พร้อมกับไม่นำข้อมูลเรื่องของรายได้ของผู้กู้มาเป็นหลักเกณฑ์พิจารณา แต่จะใช้ข้อมูลอื่น เช่น อาชีพ อายุ ประวัติการชำระเงิน การจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์มาประกอบ โดยวงเงินในการปล่อยกู้ต่อรายจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท ดอกเบี้ยคิดที่ 1-1.25% ต่อเดือน คาดว่า เมื่อเราปล่อยกู้ได้ จะทำให้มีลูกค้าเข้ามาในพอร์ตเพิ่มขึ้น 2 แสนรายคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“การปล่อยกู้ผ่านดิจิทัลเลนดิ้ง เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ธนาคารเป็นธนาคารเพื่อสังคมได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อยที่ประกอบอาชีพอิสระ ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ มีน้อยกว่าผู้ที่มีรายได้ประจำ ดังนั้น ธนาคารจะพยายามออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้สอดคล้องกับอาชีพ ป้องกันไม่ให้ไปกู้นอกระบบ ซึ่งปัจจุบัน ธนาคารมีฐานลูกค้ารายย่อยถึง 70% ของพอร์ต” คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ ธนาคารจะเร่งเปิดตัวธุรกิจนอนแบงก์ บริษัทมีที่มีเงิน เพื่อประกอบธุรกิจด้านสินเชื่อที่ดิน ธุรกิจขายฝาก และสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและรายย่อยให้มีสภาพคล่อง โดยที่อัตราดอกเบี้ยจะยังคงต่ำกว่าในระบบ ซึ่งอยู่ในระดับไม่เกิน 20% ต่อปี
นายวิทัยกล่าวว่า ในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ปรับยุทธศาสตร์ให้ธนาคารเป็นธนาคารเพื่อสังคมมากขึ้น โดยยึดหลักนำกำไรจากการประกอบธุรกิจปกติ มาสนับสนุนภารกิจเชิงสังคมกว่า 45 โครงการ มีประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 13 ล้านราย โดยเป็นผู้ที่ได้รับสินเชื่อ 5.7 ล้านราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ไม่เคยมีประวัติเครดิตและเป็นการเข้าถึงสินเชื่อในระบบมากถึง 2.76 ล้านราย ตั้งเป้าหมายระยะ 1-2 ปีว่า ในจำนวนนี้ประมาณ 1.5 ล้านราย จะขยับเป็นผู้กู้ที่มีเครดิตสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินอื่นได้ นอกจากนี้ช่วยเอสเอ็มอีได้รับสินเชื่อเสริมสภาพคล่องแล้ว 1.95 แสนล้านบาท รวมถึงช่วยคนตกงานให้กลับมามีอาชีพได้กว่า 1 แสนราย
ส่วนผลประกอบการในครึ่งปีแรกนั้น ธนาคารสามารถทำกำไรได้ 1.5 หมื่นล้านบาท คาดว่า สิ้นปีจะมีกำไรราว 2.9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปี 2564 ที่มีกำไร 2.5 หมื่นล้านบาท โดยสาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น มาจากการปรับลดต้นทุนการดำเนินงานได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท ส่วนหนี้เสีย ยังอยู่ในระดับต่ำและสามารถควบคุมได้ โดยอยู่ที่ 2.67% สำหรับกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเดือน ส.ค.นี้ ทางธนาคารพร้อมตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด โดยจะพิจารณาปรับขึ้นหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์อื่นในระบบปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว